03/05/2019
CHEVROLET TRAILBLAZER LTZ 4x4 ออฟชั่นโดดเด่น ราคาโดนใจ!
CHEVROLET TRAILBLAZER LTZ 4x4 รุ่นปัจจุบัน ถือเป็นรถเอสยูวีที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถกระบะ Colorado ภายใต้รูปลักษณ์ที่โดดเด่นสไตล์อเมริกัน ตัวถังเน้นความบึกบึน แข็งแกร่ง พร้อมอัดแน่นด้วยออฟชั่นอำนวยความสะดวกและออฟชั่นด้านความปลอดภัยยุคใหม่เต็มคัน และที่สำคัญยังมีระดับราคาค่าตัวที่น่าคบหา เมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่นจัดว่าถูกกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกันพอสมควร
CHEVROLET TRAILBLAZER LTZ 4x4 รุ่นนี้ที่ผ่านการทำตลาดมาพอสมควร รูปลักษณ์ภายนอกเรียกว่าคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว มุมมองด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่มีการออกแบบได้ลงตัว จากวัสดุสีดำเงาตัดกับลายเส้นโครเมี่ยมให้ความสปอร์ตผสมผสานความหรูหรา ฝากระโปรงหน้ามีเหลี่ยมสันเพิ่มความดุดัน ด้านข้างตัวรถดูเรียบๆเน้นความโค้งมนต่อเนื่องตลอดคัน ด้านท้ายให้ความรู้สึกบึกบันแฝงความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์ที่ชายหลังคา พร้อมชุดไฟท้ายสีสันสดใสขาวแดง และขาดไม่ได้กับล้ออัลลอยลวยลายเรียบหรู ขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยความกว้างขวาง สะดวกสบาย การตกแต่งมีความหรูหราประณีต แผงแดชบอร์ดและคอนโซลกลางเน้นโทนสีเข้มกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน วัสดุที่ใช้มีผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมสวิทช์ควบคุมต่างๆ ก็ถูกจัดวางในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่ายในระยะที่ใกล้มือผู้ขับ เบาะที่นั่งมีขนาดใหญ่กึ่งๆสปอร์ตโอบรับแผ่นหลังและช่วงต้นขาได้พอดี นั่งสบายไม่รู้สึกอึดอัด ตัวเบาะหุ้มหนังแท้สีเข้มในโทนเดียวกับแผงแดชบอร์ด ซึ่งการออกแบบเบาะทั้ง 7 ที่นั่งยังเน้นความสะดวกสบายสูงสุดในทุกการเดินทาง ผู้โดยสารที่นั่งแถวที่สองและแถวที่สามจะมีทัศนวิสัยที่กว้างไกลรอบด้านด้วยเบาะที่นั่งที่จัดวางแบบโรงภาพยนตร์ พร้อมความเย็นสบายด้วยระบบปรับอากาศที่นั่งด้านหลังที่มีการควบคุมความแรงของลมแบบแยกส่วนพร้อมช่องแอร์สำหรับทุกที่นั่ง และเบาะทั้งสามแถวยังสามารถพับให้แบนราบเพื่อขยายพื้นที่ให้มีความกว้างขวางมากขึ้นเพื่อการบรรทุกสัมภาระเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยภาคบันเทิงที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมระบบสื่อสารได้ในทุกสถานการณ์ ผ่านหน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมกับมีระบบนำทางในตัว สามารถใช้โทรศัพท์โทรออก รับสาย ฟังเพลง และเข้าถึงสมุดรายชื่อในโทรศัพท์ผ่านแอปเปิล คาร์เพลย์ หรือแอนดรอยด์ ออโต้ได้ตลอดเวลา ขณะที่แผงมาตรวัดมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือกใช้ และที่สำคัญรถเอสยูวีคันนี้ยังมาพร้อมออฟชั่นสู้แดด ด้วยรีโมทสตาร์ท มีประโยชน์อย่างมากในช่วงอากาศร้อนแบบนี้ โดยผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดระบบปรับอากาศทำความเย็นเพื่อให้รถพร้อมใช้งานก่อนที่ผู้ขับจะเข้ามาในรถ
CHEVROLET TRAILBLAZER LTZ 4x4 ให้ความแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลดูราแม็กซ์พัฒนาการล่าสุด เป็นแบบ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร กระตุ้นพลังด้วยเทอร์โบแปรผัน Variable Geometry Turbocharger (VGT) เน้นพละกำลังแรงบิดตั้งแต่รอบต่ำพร้อมความแรงเหลือเฟือในรอบสูง และให้ความประหยัดน้ำมันเมื่อใช้ความเร็วคงที่ในการขับขี่ โดยให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
เครื่องรุ่
นนี้โดดเด่นด้วยการปรับปรุงให้มีเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนน้อยลงอย่างชัดเจน และสมรรถนะของเครื่องยนต์ถูกควบคุมโดยกล่องสมองกลควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) ซึ่งพัฒนาโดยจีเอ็มเพื่อตอบสนองต่อการทำงานของเครื่องยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยมีฟังก์ชั่นควบคุมที่เป็นสิทธิบัตรของจีเอ็มมากกว่า 150 ฟังก์ชั่น ช่วยประสานการทำงานระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
การทดลองขับครั้งนี้เราเน้นเดินทางทั้งนอกและในเมือง แบบใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เริ่มสัมผัสด้วยการขับขี่แบบปกติใช้ความเร็วปานกลางในเมือง ด้วยช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงก์ พร้อมคอยล์สปริงและช็อกอัพแก๊สไดเกรสซีฟที่ปรับเซ็ทแบบเน้นการใช้งานตามความเหมาะสมกับสภาพถนนเมืองไทย สามารถยกระดับการขับขี่และการควบคุมได้อย่างน่าพอใจ อาการแข็งกระด้างเมื่อเจอพื้นถนนไม่ราบเรียบเกิดขึ้นไม่มาก สามารถซึมซับแรงกระแทกต่างๆได้ดี เรียกได้ว่าให้อารมณ์การขับขี่แบบรถเอสยูวีมากยิ่งขึ้น เมื่อขับขี่ทางไกลยาวๆสมรรถนะก็จัดว่าดีขึ้น เครื่องยนต์นิ่ง เดินเงียบราบเรียบ ทั้งช่วงออกตัวและเร่งแซง มีกำลังรองรับการใช้งานอย่างเหลือเฟือไม่จำเป็นต้องเค้นกำลังในรอบสูงๆ รวมไปถึงระบบดิสก์เบรกสี่ล้อก็ทำงานได้ดีให้น้ำหนักเหมาะสมในการหยุดหรือชะลอรถในทุกช่วงความเร็ว
การใช้งานทั่วๆไปในเมืองมีทั้งช่วงรถติดสลับหยุดนิ่งอัตราสิ้นเปลืองมีความประหยัดไม่เป็นรองคู่แข่งที่มีพิกัดเครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-13 กม./ลิตร ส่วนช่วงเดินทางไกลความเร็วคงที่ 100-120 กม./ชม.อัตราสิ้นเปลืองทำได้ 14-16 กม./ลิตร สบายๆไม่ต้องอาศัยเทคนิคขับประหยัดใดๆทั้งสิ้น และเมื่อขับด้วยความเร็ว ทั้งทางตรงและในทางโค้ง ชุดขับเคลื่อนทั้งเกียร์ ช่วงล่าง และเบรก ทำงานสอดประสานกันได้ดี ควบคุมรถได้มั่นใจในทุกจังหวะความเร็ว ตลอดการทดลองขับเรายังได้รับรู้ถึงสมรรถนะการควบคุมรถที่ดีขึ้นต่างจากเอสยูวีในร่างทรงของรถกระบะที่คุ้นเคย สามารถขับขี่ได้สะดวกสบาย ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ช่วยลดน้ำหนักพวงมาลัยสำหรับการขับขี่ในเมืองและขณะจอดรถ โดยระบบบังคับเลี้ยวจะเพิ่มน้ำหนักอย่างเหมาะสมตามความเร็วของรถ
ในการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ยังให้ความอุ่นใจด้วยการติดตั้งระบบความปลอดภัยยุคใหม่เต็มเพียบ ไม่ว่าจะเป็นระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา , ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร , ระบบเตือนการชนด้านหน้า , ติดตั้งกล้อมมองหลังพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุขณะถอยจอดรถด้านหน้าและด้านหลัง , เซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝน , ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ , ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง ที่สามารถแสดงค่าแรงดันลมของยางทั้งสี่ล้อ และจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อแรงดันลมยางลดต่ำเกินไปที่แผงหน้าปัด (การทดลองขับเราพบการแจ้งเตือนเมื่อลมยางต่ำกว่า 30 ปอนด์) ส่วนระบบอื่นๆที่กล่าวมานี้ก็สามารถใช้งานได้จริงและเป็นประโยชน์อย่างมากในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่
ส่วนระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟและแพสซีฟก็มาครบทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทั้งขณะออกตัวและในโค้ง Traction Control System (TCS) ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน Panic Brake Assist (PBA) ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution (EBD) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control (HDC) ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน Hill Start Assist (HSA) ระบบรักษาเสถียรภาพขณะลากจูง (Trailer Sway Control) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Anti-Rolling Protection) พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่ กุญแจพร้อมรีโมท คอนโทรล สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ก่อนที่คุณจะถึงรถ พร้อมสั่งระบบปรับอากาศทำงานโดยอัตโนมัติ ให้ความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเรียกว่าระบบความปลอดภัยรถรุ่นนี้จัดเต็มแบบไม่เป็นสองรองใครในตลาด